เมื่อสหรัฐอเมริกามีการผิดนัดชำระหนี้ ผลกระทบทางเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร?

Adam Lienhard
Adam
Lienhard
เมื่อสหรัฐอเมริกามีการผิดนัดชำระหนี้ ผลกระทบทางเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร?

เมื่อวัน X-date ใกล้เข้ามา สหรัฐฯ กำลังเผชิญกับสถานการณ์วิกฤตซึ่งอาจมีเงินทุนไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้ ทั้งนักเศรษฐศาสตร์และนักการเมืองเห็นพ้องต้องกันว่าการผิดนัดชำระหนี้จะส่งผลให้เกิดหายนะตามมา

การผิดนัดชำระหนี้คืออะไร?

แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะใช้คำว่า “การผิดนัดชำระหนี้” แต่การตีความของพวกเขาก็แตกต่างกัน ความแตกต่างนี้มีนัยสำคัญเนื่องจากคำจำกัดความของการผิดนัดชำระหนี้ของกระทรวงการคลังนั้นมีลักษณะเฉพาะ ดังนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังหารือเกี่ยวกับปัญหาการผิดนัดชำระ พวกเขาไม่ได้อ้างถึงประเด็นเดียวกันที่ก่อให้เกิดความกังวลในหมู่นักการธนาคารและนักเศรษฐศาสตร์

ผู้เชี่ยวชาญทางการเงินระบุว่าการผิดนัดชำระหนี้เป็นความล้มเหลวของลูกหนี้ในการชำระหนี้ ส่งผลให้การชำระเงินต้นและดอกเบี้ยล่าช้าสำหรับผู้ถือหุ้นกู้ของกระทรวงการคลัง อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังมีคำจำกัดความที่กว้างกว่าของการผิดนัด ซึ่งการชำระเงินที่ขาดหายไป — เกิดจากรัฐบาลไม่มีเงิน — ถือเป็นการผิดนัด รวมถึงการไม่ชำระบิล

ผิดนัดหรือไม่ผิดนัด?

เป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะผิดนัดชำระหนี้ตามคำนิยามของกระทรวงการคลัง แต่อาจไม่ร้ายแรงอย่างที่เชื่อกันทั่วไป โดยพื้นฐานแล้ว การใช้จ่ายของรัฐบาลสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภท: การชำระหนี้และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้งหมด

สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่า หากการพลาดชำระเงินเกิดขึ้นอันเป็นผลมาจากการหยุดดำเนินการของรัฐบาลชั่วคราวหรือช่องว่างทางการเงิน เช่นเดียวกับสถานการณ์ในปี 2556 กระทรวงการคลังจะไม่ถือว่าเป็นการผิดนัดชำระ ดังที่เจเน็ต เยลเลนกล่าวไว้ สหรัฐอเมริกาไม่เคยประสบกับการผิดนัดชำระหนี้เลยตั้งแต่ปี 1789

ในตลาดการเงิน มีคำพูดทั่วไปว่าการชำระเงินที่ขาดหายไปนั้นไม่มีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ไม่ว่าสาเหตุจะเป็นการปฏิเสธหนี้ เงินไม่เพียงพอ หรือการขัดขวางการชำระหนี้โดยกรรมการ ก็ไม่มีน้ำหนัก

เกิดอะไรขึ้นในอดีต?

กระทรวงการคลังต้องเข้าใจเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ใดก็ตาม ในปี 2556 บัญชีเงินเดือนของรัฐบาลกลางหยุดชะงัก แต่ต้องย้ำว่าเหตุการณ์นี้ไม่ได้ถือเป็นการผิดนัดโดยตลาดหรือนักการเมือง ตลาดเชื่อมั่นว่าไม่ได้เป็นการผิดนัดเนื่องจากการชำระหนี้ของพันธบัตรกระทรวงการคลังยังคงไม่หยุดชะงัก ในขณะที่นักการเมืองระบุว่าการไม่จ่ายเงินนั้นเกิดจาก “การขาดการจัดสรร” มากกว่าความล้มเหลวในการระดมทุนที่จำเป็น

สถานการณ์มีดังนี้: ในช่วงวิกฤตเพดานหนี้ครั้งก่อน กระทรวงการคลังได้วางแผนกลยุทธ์เพื่อรับประกันการจ่ายพันธบัตรรัฐบาลให้ทันเวลา แม้จะเป็นผลเสียกับการชำระเงินอื่นๆของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม เยลเลน รัฐมนตรีคลังระบุอย่างชัดเจนเมื่อวันศุกร์ว่าแผนนี้ไม่เคยเสนอต่อประธานาธิบดีหรือได้รับการอนุมัติ เธอยังยืนยันว่าการจัดลำดับความสำคัญของการชำระเงินเฉพาะนั้นทำไม่ได้

ผลที่ตามมาของการผิดนัด

จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ความรอบคอบในการจัดการกับสถานการณ์ การเปิดเผยแผนจัดลำดับความสำคัญของกระทรวงการคลังอาจทำให้พรรครีพับลิกันไม่กล้าใช้วัน x-date อย่างไม่ระมัดระวังและให้ความเชื่อมั่นต่อการยืนยันที่ไม่มีมูลของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ว่าการผิดนัดชำระหนี้จะไม่เป็นปัญหาอย่างมีนัยสำคัญ

ในภาพรวมของสิ่งต่าง ๆ การใช้การจัดลำดับความสำคัญและการปฏิบัติตามนั้นจะช่วยลดผลกระทบระยะสั้นต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลกได้ เนื่องจากการพลาดการชำระเงินจะคล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นในปี 2556 ในทางกลับกัน การผิดนัดชำระหนี้โดยสมบูรณ์จะมีผลร้ายแรงกว่ามาก

ความเป็นไปได้ในการจัดลำดับความสำคัญและประธานาธิบดีไบเดนจะเลือกปฏิบัติหรือไม่ยังคงไม่แน่นอนจนกว่าจะถึงวัน X-date

ติดตามเราบนโซเชียลมีเดีย (เทเลแกรม, อินสตาแกรม, เฟสบุ๊ค) เพื่อรับการอัปเดตจาก Headway ทันที